TISCO ไตรมาส 4/66 กำไร 7.3 พันล้านบาท NPLs 2.2% ปี 67 ตั้งเป้าเติบโตเพียง 0 - 10%

TISCO ไตรมาส 4/66 กำไร 7.3 พันล้านบาท NPLs  2.2% ปี 67 ตั้งเป้าเติบโตเพียง 0 - 10% หวั่นปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า เร่งขยายฐานลูกค้า Bank Insurance 

.

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เผยผลประกอบการปี 2566 มีกำไรสุทธิ 7,303 ล้านบาท ขยายตัว 1.1% จากปีที่แล้ว จากการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 8.6% จากปีที่แล้ว แต่รายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยนั้นต่ำกว่าคาด ลดลง -6.4% จากปีที่แล้ว เนื่องจากผลกระทบจากภาวะตลาดทุนซบเซา ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 19,046 ล้านบาท เติบโตเพียง 4.0% จากปีที่แล้ว โดยรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัยลดลง 4.3% เนื่องจากธุรกิจเช่าซื้อชะลอตัว ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) คงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง 3 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ 2.2% 


นอกจากนี้ในการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว โดยมีแผนที่จะเพิ่มสาขาบริการด้านสินเชื่อ 200 สาขาต่อปี ซึ่งภายในปี 2567 ยอดรวมสาขาอยู่ที่ 845 สาขา เป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน ซึ่งอยู่ที่ 9,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึง 8.7% ถือเป็นการลงทุนที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนภายในระยะสั้น


ทางด้านการคาดการณ์การเติบโต ปี 2567 ทางทิสโก้คาดว่ารายได้เติบโต เพียง 0 - 10% ท่ามกลางตลาดทุนผันผวนและปัจจัยต่างๆ


แผนกลยุทธิ์ดำเนินงานในปี 2567 ทางธนาคารทิสโก้จะนำความเชี่ยวชาญในทุกแขนงสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าในทุกกลุ่ม ครอบคลุมครบทุกด้านการลงทุน ทั้งกองทุน - หุ้น - ประกัน - เงินฝาก - สินเชื่อ รวมถึงการบริหารจัดการหนี้  ในธุรกิจสินเชื่อมุ่งการเติบโตอย่างมีคุณภาพและดูแลลูกค้าอย่างรับผิดชอบ ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ขณะที่ธุรกิจให้คำปรึกษาการเงิน - การลงทุน เดินหน้ารุกกลุ่มลูกค้าเศรษฐี ทรัพย์สินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยหวังช่วยลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินและรับมือสังคมสูงอายุได้เร็วขึ้น


ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อ คาดว่าจะสร้างการเติบโตในระดับเดียวกันกับเศรษฐกิจไทย โดยมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุมและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยสินเชื่อรายย่อยจะพิจารณาตามความเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และภาระหนี้ของลูกค้า (Debt Service Ratio) ซึ่งในปีนี้ยังคงเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกันที่ทิสโก้มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ สินเชื่อจำนำทะเบียน ในธุรกิจสมหวัง เงินสั่งได้ และรักษาตำแหน่งทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ โดยเน้นกลุ่มสินเชื่อรถมือสอง สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ และสนับสนุนสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสการเติบโตในสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และพลังงานทางเลือก ซึ่งทิสโก้จะใช้จุดแข็งของการบริการแบบตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า (Total Solution) 


ในส่วนของธุรกิจธนบดีธนกิจและตลาดทุน เน้นให้บริการการให้คำแนะนำอย่างผู้เชี่ยวชาญแบบองค์รวม (“Holistic Financial Advisory”) โดยครอบคลุมด้านการวางแผนการเงิน การลงทุน ความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพ  ตลอดจนการวางแผนเพื่อคุณภาพชีวิตหลังการเกษียณ พร้อมยกระดับความสามารถการให้บริการในช่องทางดิจิทัลที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Mass Affluent ที่มีเงินฝากและ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป 


ด้านธุรกิจนายหน้าประกันภัย จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การวางแผนบริหารความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า โดยดึงจุดแข็งและความเชี่ยวชาญในการให้บริการประกันภัยอย่างครบวงจรมาขยายพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ โดยมุ่งให้เกิดระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบัน


#TISCO #Q4_66 #ประกาศงบ #ธนาคารประกาศงบ